เบื้องหลัง ประวัติ และความเป็นมา ของ สารประกอบของแก๊สมีสกุล

ในสมัยก่อนศตวรรษที่ 20 ผู้คนในสมัยนั้นยังเชื่อกันว่าแก๊สมีสกุลไม่สามารถเกิดสารประกอบได้ เนื่องจากธาตุเหล่านั้นมีเวเลนซ์อิเล็กตรอนครบแปดตัว จึงทำให้มันเสถียรและไม่สามารถเกิดปฏิกิริยาได้ แก๊สมีสกุลทุกชนิดมีอิเล็กตรอนเต็มใน s และ p ออร์บิทัล ในระดับพลังงานที่สูงที่สุด เว้นเสียแต่ธาตุฮีเลียมที่มีเฉพาะ s ออร์บิทัลในวงนอกสุดเท่านั้น รวมทั้งยังมีค่าพลังงานไอออไนเซชันสูงและค่าสัมพรรคภาพอิเล็กตรอนต่ำอีกด้วย ผู้คนในสมัยก่อนจึงเชื่อกันว่าธาตุเหล่านี้ไม่สามารถเกิดสารประกอบได้ด้วยเหตุผลเหล่านี้นั่นเอง

ในปี พ.ศ. 2476 (ค.ศ. 1933) ไลนัส พอลลิง ได้ทำนายว่าแก๊สมีสกุลที่มีเลขอะตอมสูงจะสามารถทำปฏิกิริยากับฟลูออรีนและออกซิเจนได้ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังทำนายอีกว่าสามารถเกิดสารประกอบ คริปตอนเฮกซะฟลูออไรด์ และ ซีนอนเฮกซะฟลูออไรด์ ได้ และยังทำนายอีกว่า จะเกิดสารประกอบซีนอนออกตะฟลูออไรด์ซึ่งไม่เสถียร รวมทั้งทำนายว่า กรดซีนิก จะให้เกลือเป็นเกลือเปอร์ซีเนต การทำนายนี้ใกล้เคียงความเป็นจริงมาก ยกเว้นเพียงแค่ซีนอนออกตะฟลูออไรด์เท่านั้นที่ในปัจจุบันนี้มีการทำนายเพิ่มเติมว่า สารประกอบนี้นอกจากจะไม่เสถียรในทางอุณหพลศาสตร์แล้ว ยังไม่เสถียรในทางจลนพลศาสตร์อีกด้วย และสารประกอบนี้ยังผลิตไม่ได้จนถีง พ.ศ. 2549

แก๊สมีสกุลที่เป็นธาตุหนักจะมีออร์บิทัลของอิเล็กตรอนมากกว่าธาตุเบา (ธาตุที่อยู่ทางตอนบนของตารางธาตุ) ดังนั้น อิเล็กตรอนในระดับพลังงานชั้นที่สูงสุด (ชั้นที่อยู่ห่างจากนิวเคลียสมากที่สุด) ก็จะถูกกำบังจากบรรดาอิเล็กตรอนในระดับพลังงานชั้นต่ำ จึงเป็นเหตุให้ธาตุแตกตัวเป็นไอออนได้ง่าย เนื่องจากอิเล็กตรอนเหล่านั้นได้รับแรงดึงดูดทางไฟฟ้าจากนิวเคลียสน้อยมาก จึงส่งให้ค่าพลังงานไอออไนเซชันของธาตุเหล่านั้นต่ำพอที่จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมีกับธาตุที่มีค่าอิเล็กโทรเนกาติวิตีสูง อันได้แก่ ออกซิเจน และ ฟลูออรีน

ใกล้เคียง

สารประกอบโคออร์ดิเนชัน สารประกอบอินทรีย์ สารประกอบ สารประกอบอะลิฟาติก สารประกอบของแก๊สมีสกุล สารประกอบอนินทรีย์ สารประกอบไอออนิก สารประกอบออร์กาโนฟอสฟอรัส สารปรอท สารประกอบเฮเทอโรไซคลิก